top of page

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 

   เวลาเช้าตรู่ พวกเราแวะตลาดระหว่างทางไปบ้านนาหมูม่น ริวเจอกระดิ่งผูกคอวัวในตลาด เลยตัดสินใจซื้อมาหนึ่งชิ้นทันที เมื่อเดินออกจากวัดที่บ้านนาหมูม่น ริวแกว่งกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊ง พวกเรามุ่งหน้าต่อไปโดยมีผืนนาอยู่ทางซ้าย พร้อมลุ่มน้ำหมันอยู่ทางขวา ในบางจังหวะ มองเห็นกังหันวิดน้ำจากแม่น้ำหมันเข้าทุ่งนา เมื่อกระดิ่งดังขึ้นหลายครั้ง เบียร์ถามริวแบบนี้

   “สมัยที่ผมทำงานในกรุงเทพ ถ้าคิดถึงบ้านขึ้นมา ผมชอบฟังเพลงที่ใช้เสียงกระดิ่ง เวลาริวคิดถึงบ้าน ทำอะไรให้หายคิดถึง”

   ริวตอบกลับ

   “มองหาภูเขาไฟฟุจิมั้ง”

   ระหว่างที่พวกเราเพลิดเพลินกับบทสนทนา ผีเสื้อพากันปรากฏกาย สีขาว สีครีม สีน้ำตาล สีดำ... ท่ามกลางผีเสื้อหลากสี มีเพียงผีเสื้อจุดน้ำเงินหยุดนิ่งบนใบไม้ราวกับรอคอยการมาเยือนของพวกเรา เสียงอุทาน “โอ้!” “เจ๋งมาก!” “ผีเสื้อสีน้ำเงินอยู่นั่น!” ดังต่อเนื่อง ทว่าเจ้าผีเสื้อไม่สะทกสะท้าน กลับกางปีกกว้างค้างนิ่ง พวกเราพบพี่แก่นตรงปลายสะพาน เขาเร่งมือเตรียมปักต้นกล้าข้าวเหนียวแดง ระหว่างเดินกลับ เมื่อมองเห็นผู้คนทำงานกลางทุ่งนาไกลออกไป ผมเผลอกลั้นหายใจ เพราะสีเขียวขจีของต้นข้าวทั่วผืนนาและแมกไม้บนภูเขา พร้อมสีครามบนท้องฟ้า แผ่กว้างยิ่งใหญ่ทรงพลัง ราวกับโอบกอดผู้คนที่ค่อยๆ เคลื่อนไหวเหล่านั้นเอาไว้จากแดนไกล พวกเราสลับกันร้องเพลงโปรด แล้วบอกลาทัศนียภาพของผืนนาที่เปล่งประกายรับแสงอาทิตย์        

   ตกเย็น พวกเราพบกลุ่มเด็กมัธยมปลายเล่นบาสจนเหงื่อท่วมตรงสนามกีฬา เห็นว่ามาเล่นบาสกันที่นี่ทุกวันเลยนะ แต่ละคนเล่าถึงเหตุผลแตกต่างกัน “ไม่ถนัดเล่นกีฬาที่ต้องใช้เท้า” ไม่ก็ “ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ” แต่ผมรู้สึกว่าคำตอบของเด็กคนหนึ่งที่ว่า “ก็แค่ชอบบาสเกตบอลครับ” สื่อได้ครบทุกอย่าง ท้องฟ้ายามเย็นและเทือกเขาแห่งด่านซ้ายคล้ายกำลังก้มมองดูพวกเขา ท่าทางเบียดเสียดกลางสนามและจังหวะวิ่งไล่ตามลูกบอลของเด็กมัธยมปลายนี่แหละ ที่สื่อถึงความเป็นวัยรุ่นที่แท้จริง 

   ท้องฟ้า ภูเขา และผู้คน

   ในขณะที่กลุ่มเด็กมัธยมปลายเหงื่อผุดเต็มหน้าผากกลางสนามบาส กังหันวิดน้ำบนนาของพี่แก่นก็ยังหมุนต่อไปอย่างแน่นอน ผมจินตนาการถึงภาพเหล่านั้น เสียงไม้ดังลั่นเอี๊ยดอ๊าดสาดน้ำกระเซ็นจากกังหัน เสียงเลี้ยงลูกบอลดังก้องสนาม พวกเราตัวเล็กจ้อยกว่าผืนฟ้าและภูผายิ่งนัก จึงมิอาจได้ยินเสียงทั้งสองสิ่งได้พร้อมกัน แม้จะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ที่เจ้าผีเสื้อสีน้ำเงินกางปีกกว้างไม่ขยับเขยื้อนในวันนี้ อาจเป็นเพราะกำลังสดับรับฟังเสียงจากสองฟากอยู่ก็เป็นได้

   ผมคิดถึงเรื่องเหล่านี้ระหว่างทางกลับบ้าน  

bottom of page